วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ตำลึง




สรรพคุณของตำลึง

ตำลึง

สรรพคุณของตำลึงประโยชน์ของตำลึง
ลักษณะ
ตำลึง  หรือ ผักตำลึง อีกหนึ่งคุณค่าทางด้านสรรพคุณและคุณค่าทางอาหารทั้งประโยชน์ของตำลึงรวมอีกด้วยค่ะ และ สรรพคุณของตำลึก ก็ยังจัดเป็นสมุนไพรที่ดีราคาไม่แพงแถมยังหาซื้อได้ง่ายดายมาก ๆ อีกด้วยนะค่ะ และนอกจาก สรรพคุณของตำลึง แล้ว ประโยชน์ของตำลึง ก็ยังมีมากมายที่คุณพ่อบ้านและคุณแม่บ้านน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีเชียวนะค่ะ ว่าแล้ววันนี้ไม่ของพูดมากเรามาดูสาระน่ารู้เกี่ยวกับตำลึงที่เราได้ทำการรวบรวมมาให้นั่นก็คือ ประโยชน์ของตำลึง และ สรรพคุณของตำลึง นั่นเองค่ะ


ประโยชน์
  1. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความเสื่อมความเซลล์ต่างๆในร่างกาย
  2. ช่วยบำรุงผิวพรรณ และช่วยซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อในร่างกาย
  3. ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
  4. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร
  5. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ด้วยการใช้เถาแก่ 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำหรือจะใช้น้ำคั้นจากผลดิบ นำมาดื่มวันละ 2 รอบเช้าเย็น จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มระดับอินซุลิน
  6. ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง (ใบ,น้ำคั้นตำลึง)
  7. ประโยชน์ของตำลึง ช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด จึงช่วยป้องกันการเกิดอัมพาตด้วย
  8. ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง (แคลเซียม)
  9. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา (วิตามินเอ)
  10. ช่วยบำรุงเลือด (ใบ)
  11. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต (ใบ)
  12. ช่วยป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดแข็ง ตีบตัน และแตกได้
  13. ช่วยบำรุงน้ำนมแม่ (ใบ)
  14. ช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน (วิตามินซี)
  15. ใช้ดับพิษร้อน แก้ไข้ตัวร้อน (ใบ)
  16. ช่วยลดไข้ (ราก)
  17. ช่วยแก้อาเจียน (ราก)
  18. แก้อาการวิงเวียนศีรษะ ด้วยการใช้เถาตำลงชงกับน้ำดื่ม (เถา)
  19. สรรพคุณของตำลึง ใช้แก้อาการตาแดง เจ็บตา (ใบ)
  20. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม และยังช่วยป้องกันการเสื่อมของศูนย์จอตาได้อีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องนั่งอยู่หน้าคอมพ์นานๆ และมีอาการสายตาอ่อนล้า
  21. แก้อาการตาแดง ตาฟาง ตาช้ำ ตาแฉะ พิษอักเสบในตา ด้วยการใช้เถาตำลึง นำน้ำต้มจากเถามาหยอดตา (เถา)
  22. ช่วยแก้อาการตาช้ำแดง ด้วยการตัดเถาเป็นท่อนยาว 2 นิ้วนำมาคลึงพอช้ำแล้วเป่า จะเกิดฟองใช้หอดตา (เถา)
  23. แก้อาการตาฝ้า (ราก)
  24. แก้อาการผิดสำแดงเพราะกินของแสลง โดยใช้เถาตำลึงตัดเป็นท่อนยาว 1 คืบ (จำนวน 3-4 ท่อน) นำไปใส่ในหม้อดินสุมไฟด้วยฟางจนไหม้เป็นขี้เถ้า นำมาบดให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำซาวข้าวดื่มครั้งละ 1 ถ้วยชา (เถา)
  25. ประโยชน์ตำลึง ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง ด้วยการรับประทานใบตำลึงสดๆ (ใบ)
  26. ใช้เป็นยาถ่าย ยาระบาย ช่วยระบายท้อง (เปลือกราก,หัว)
  27. ช่วยขับสารพิษในลำไส้ (ใบ)
  28. ช่วยป้องกันอาการท้องผูก (ใบ)
  29. สรรพคุณใบตำลึง ช่วยแก้ผดผื่นคัน ด้วยการใช้ใบตำลึงนำมาตำแล้วทาบริเวณที่คัน (ใบ,ดอก)
  30. ช่วยลดอาการคันและการอักเสบเนื่องจากพืชมีพิษหรือถูกแมลงสัตว์กัดต่อย เช่น หมามุ้ย ถูกตัวบุ้ง ยุงกัด ใบตำแย แพ้ละอองพิษคูน พิษกาฬ เป็นต้น ด้วยการใช้ใบสด 1 กำ นำมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำแล้วคั้นเอาน้ำมาทาบริเวณดังกล่าวจนกว่าจะหายดี (ใบ)
  31. ใบตำลึง สรรพคุณช่วยแก้ฝีแดง (ผล)
  32. ตำลึงประโยชน์ช่วยดับพิษฝี (ใบ)
  33. แก้อักเสบ ด้วยการใช้น้ำจากเถาทาบริเวณที่เป็น (เถา)
  34. ช่วยดับพิษต่างๆ (เถา,ราก)
  35. ใช้รักษาแผลอักเสบ ด้วยการใช้ใบสดหรือรากสด นำมาตำแล้วพอกบริเวณแผล (ใบ,ราก)
  36. ประโยชน์ของใบตำลึง บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน (ใบ)
  37. ช่วยแก้หิด ด้วยการใช้เมล็ดตำผสมแล้วนำมาทาบริเวณที่เป็น (เมล็ด)
  38. แก้งูสวัด เริม ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 2 กำมือ (ล้างให้สะอาด) นำมาผสมกับพิมเสนหรือดินสอพอง 1 ใน 4 ส่วน แล้วนำมาพอกบริเวณที่เป็น (ใบ)
  39. ช่วยป้องกันการเป็นตะคริว (ใบ)
  40. ตำลึงสรรพคุณ ช่วยกำจัดกลิ่นตัว กลิ่นเต่า ด้วยการใช้ต้นตำลึง (ทั้งเถาและใบ) นำมาตำผสมกับปูนแดงแล้วทาบริเวณรักแร้
  41. ใช้ทำทรีทเม้นท์ทำให้ผิวหน้าเต่งตึง ด้วยการใช้ยอดตำลึงครึ่งถ้วยและแท้ครึ่งถ้วย นำมาผสมกันแล้วปั่นในโถให้ละเอียด แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก (ยอดตำลึง)
  42. ใช้เป็นยารักษาตาไก่ (ไก่ที่ถูกยุงกัดจนตาบวม เป็นพยาธิ มีหนองขาวและแข็งภายในของเปลือกตา) อย่างแรกให้พลิกเอาหรองขาวแข็งออกจากตาไก่ก่อน แล้วใช้เถาตำลึงแก่ๆ (ขนาดเท่านิ้วก้อย) มาตัดเป็นท่อนๆ (ตัดข้อทิ้ง) แล้วใช้ปากเป่าด้านหนึ่งจนเกิดฟอง หลังจากนั้นให้เอามือเปิดเปลือกตาไก่ออกแล้วเอาฟองที่ได้หยอดตาไก่วันละครั้งจนหายดี (เถา)
  43. ประโยชน์ของผักตำลึง นิยมใช้ยอดและใบกินเป็นผักสด อาจจะลวกหรือต้มจิ้มกินน้ำพริก และใช้ในการประกอบอาหารได้หลายอย่าง เมนูตำลึง เช่น แกงจืด ต้มเลือดหมู แกงเลียง ก๋วยเตี๋ยว ผัดไฟแดง ไข่เจียว เป็นต้น (ยอด,ใบ)
  44. ผลอ่อนของตำลึงนำมากินกับน้ำพริกหรือจะนำมาดองกิน ส่วนผลสุกมีรสอมหวาน กินได้เช่นกัน (ผล)

คุณค่า


ยอดของตำลึงใช้ปรุงอาหาร ตำลึง 100 กรัม ประกอบไปด้วยโปรตีน 3.3 กรัม วิตามินบี1 0.17 มิลลิกรัม แคลเซียม 126 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 30 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 4.6 มิลลิกรัม ไนอาซีน 1.2 มิลลิกรัม วิตามินซี 13 มิลลิกรัม ใยอาหาร 2.2 กรัม และเบต้าแคโรทีนสูงถึง 699.88 ไมโครกรัม มากกว่าฟักทองและมันเทศซึ่งมีเบต้าแคโรทีน 225 และ 175 ไมโครกรัมตามลำดับ ต่อปริมาณ 100 กรัมเหมือนกัน

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น